พาผู้สูงอายุไปศูนย์ดูแลช่วงเทศกาล ผิดศีลธรรมหรือไม่?

ช่วงเทศกาลพาพ่อแม่ไปพักที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บาปหรือไม่?

ช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่หรือสงกรานต์เป็นเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันเพื่อพักผ่อนและสร้างความทรงจำดีๆ แต่หากบ้านไหนมีผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลใกล้ชิด การจัดสรรเวลามาดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอาจเป็นเรื่องยาก หลายครอบครัวจึงพิจารณาพาผู้สูงอายุไปพักที่ สถานดูแลผู้สูงอายุชั่วคราวเพื่อให้ผู้ดูแลหลักได้พักผ่อนบ้าง คำถามที่ตามมาคือ “การทำเช่นนี้ผิดศีลธรรมหรือเป็นการอกตัญญูหรือไม่?”

ความจำเป็นในการให้ผู้ดูแลได้พักบ้างในวันหยุดเทศกาล

การดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เป็นงานที่ต้องใช้พลังใจและพลังกายอย่างมาก ผู้ดูแลเองก็อาจหมดไฟได้หากไม่ได้พักเลย ในช่วงเทศกาลที่คนอื่นๆ ได้หยุดพักผ่อน ผู้ดูแล และสมาชิกครอบครัวก็ควรได้มีเวลาเติมพลังใจ การให้คุณพ่อคุณแม่ผู้สูงอายุไปพักในศูนย์ดูแลเป็นการดูแลทั้งสองฝ่าย – ผู้สูงอายุได้รับการดูแลจากมืออาชีพ ส่วนลูกหลานก็ได้พักเพื่อกลับมาดูแลต่ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การพาผู้สูงอายุไปศูนย์ดูแลไม่ได้หมายความว่าไร้ความกตัญญู

ความรู้สึกผิดหรือกลัวว่าจะผิดศีลธรรมเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย เพราะเราถูกสอนเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม การดูแลพ่อแม่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำทุกอย่างด้วยตนเองเสมอไป หากครอบครัวไม่สามารถดูแลท่านได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา การเลือกใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐานสูงถือเป็นการแสดงความรักและรับผิดชอบต่อท่านในอีกรูปแบบหนึ่ง เจตนาในการดูแลสำคัญที่สุด หากเราพาท่านไปด้วยความตั้งใจให้ท่านได้รับการดูแลที่ดี มิใช่การทอดทิ้ง นั่นไม่ถือว่าผิดศีลธรรมเลย ในทางตรงข้าม การฝืนดูแลทั้งที่ไม่ไหวและปล่อยให้ท่านอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยกลับไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น

ข้อดีของการพักที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในช่วงเทศกาล

การเลือกให้ผู้สูงวัยพักที่ศูนย์ดูแลในช่วงวันหยุดมีข้อดีหลายประการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบางแห่ง มีทีมแพทย์และพยาบาลพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการช่วยเหลือทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ฯ หลายแห่งจัดกิจกรรมสันทนาการและการเข้าสังคมให้ผู้สูงอายุได้ทำร่วมกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้ท่านไม่เหงาและมีความสุขมากขึ้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ (เช่น พื้นกันลื่น ราวจับ และอุปกรณ์ช่วยเหลือ) ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อท่านได้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยและกับผู้ดูแลมืออาชีพ ลูกหลานก็สบายใจและมีความสุขกับวันหยุดอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลจนเกินไป ภาพประกอบ 2: ผู้สูงอายุทำกิจกรรมกลุ่มอย่างสนุกสนานภายในศูนย์ดูแล มีเพื่อนวัยเดียวกันรายล้อม (คำอธิบายภาพ: ผู้สูงวัยหลายคนกำลังเล่นเกมบำบัดและหัวเราะร่วมกันที่ศูนย์ดูแล)

เลือกศูนย์ดูแลที่เหมาะสม สบายใจทั้งผู้สูงอายุและครอบครัว

สิ่งสำคัญคือการเลือกสถานดูแลที่มีคุณภาพ ควรศึกษาข้อมูลและเยี่ยมชมสถานที่ก่อนพาผู้สูงอายุไปพัก ดูว่าศูนย์นั้นสะอาด ปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่เพียงพอและผ่านการอบรมในการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ การเลือกสถานที่ที่มีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองจะช่วยให้ผู้สูงวัยปรับตัวได้ง่ายขึ้น บางครอบครัวอาจลองให้ท่านไปพักแบบทดลองก่อนสัก 1-2 วัน เพื่อให้ท่านคุ้นเคยและให้เราได้ประเมินว่าศูนย์นั้นตอบโจทย์ความต้องการจริงหรือไม่ เมื่อมั่นใจแล้วว่าศูนย์ที่เลือกนั้นดี ผู้ดูแลและญาติก็จะรู้สึกสบายใจ ลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของท่านในช่วงที่ต้องห่างกัน

จิตวิทยาในการชักจูงใจและดูแลความรู้สึกของทุกฝ่าย

การพูดคุยกับผู้สูงอายุเกี่ยวกับการไปพักที่ศูนย์ดูแลต้องทำอย่างนุ่มนวลและให้เกียรติ อาจอธิบายว่าเป็นการให้คุณพ่อคุณแม่ได้พักฟื้นและทำกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนใหม่ที่ศูนย์ เป็น “การไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ” มากกว่าจะพูดว่าไปอยู่ “บ้านพักคนชรา” ซึ่งคำหลังอาจทำให้ท่านรู้สึกถูกทอดทิ้ง ควรเน้นข้อดีที่ตรงกับใจท่าน เช่น ได้พบเพื่อนวัยเดียวกัน มีกิจกรรมที่ท่านชื่นชอบ หรือมีคนคอยดูแลใกล้ชิดเรื่องสุขภาพ เมื่อลูกหลานสื่อสารด้วยความรักและความเข้าใจ ผู้สูงวัยก็มักจะคลายความกังวลลง หากญาติหรือเพื่อนบ้านบางคนไม่เข้าใจ เราอธิบายเหตุผลให้ฟังก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจคำตัดสินคนอื่นมากนัก เพราะสุดท้ายครอบครัวเรารู้ดีที่สุดว่าอะไรเหมาะสมกับผู้ใหญ่ที่เรารัก

การเยี่ยมเยียนและความผูกพันไม่ขาดหาย

แม้ผู้สูงอายุจะพักอยู่ที่ศูนย์ดูแลในช่วงเทศกาล ลูกหลานควรวางแผนการเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ การแวะมาเยี่ยม นำอาหารหรือของที่ท่านชอบมาให้ และใช้เวลาพูดคุยกับท่าน จะทำให้ท่านรับรู้ว่าครอบครัวยังรักและคิดถึงอยู่เสมอ หากเป็นไปได้อาจจัดฉลองเล็กๆ เทศกาลร่วมกับท่านที่ศูนย์หรือเมื่อรับท่านกลับบ้าน เพื่อให้ท่านไม่รู้สึกว่าขาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป ช่วงเวลาที่ห่างกันนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีที่ลูกหลานจะได้พักผ่อนอย่างไร้ความกังวล เมื่อถึงเวลารับท่านกลับบ้าน ทุกคนก็จะพร้อมหน้าพร้อมตาใช้ชีวิตร่วมกันต่อด้วยความรู้สึกสดชื่นขึ้น สรุป: การพาผู้สูงอายุไปพักที่สถานดูแลผู้สูงอายุในช่วงเทศกาลไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมหรือการอกตัญญู หากเราทำด้วยความรักและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย ผู้สูงวัยเองก็ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในเวลาที่ลูกหลานไม่สะดวก ส่วนลูกหลานก็ได้ดูแลสุขภาพกายใจของตนเพื่อที่จะกลับมาดูแลท่านต่อได้อย่างเต็มที่ ความกตัญญูสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ บางครั้งการตัดสินใจให้มืออาชีพช่วยดูแลก็เป็นทางเลือกที่แสดงถึงความรักและความรับผิดชอบที่เรามีต่อท่านอย่างแท้จริง

[มายลักษณ์ เนอร์สซิ่งโฮม]