ผู้สูงอายุเหงาช่วงปลายปี 2025 จริงหรือ? 5 วิธีคลายเหงาที่ลูกหลานทำได้ทันที

ผู้สูงอายุเหงามากขึ้นช่วงปลายปีจริงไหม? และวิธีช่วยที่ลูกหลานทำได้ทันที

ผู้สูงอายุเหงามากขึ้นช่วงปลายปี เป็นเรื่องที่หลายครอบครัวสังเกตได้จริง ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศการเฉลิมฉลองกลับทำให้ผู้สูงวัยบางคนรู้สึก เหงา มากกว่าปกติ โดยเฉพาะท่านที่ต้องอยู่บ้านลำพังหรือลูกหลานไม่ได้กลับมาเยี่ยม ผลสำรวจชี้ว่า ผู้สูงอายุ 1 ใน 10 คนที่อายุเกิน 65 ปี อาจประสบกับภาวะ “เหงาเฉียบพลัน” ในช่วงเทศกาล หากอายุมากกว่า 80 ปี สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 2 คน เลยทีเดียว ความเหงาที่ถูกปล่อยไว้นานไม่เพียงทำให้ใจหม่นหมอง แต่ยังเสี่ยงกลายเป็นโรคซึมเศร้าและส่งผลต่อสุขภาพกายของผู้สูงวัยด้วย ลูกหลานจึงไม่ควรมองข้ามความรู้สึกของผู้ใหญ่ในช่วงเวลาสำคัญของปีนี้

สาเหตุที่ผู้สูงวัยเหงาช่วงปลายปี

ปลายปีเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมญาติและกิจกรรมรื่นเริง แต่สำหรับผู้สูงอายุหลายคนกลับกลายเป็นช่วงที่ต้องอยู่เงียบๆ คนเดียว บ้านที่เคยคึกคักอาจเงียบเหงาลงเพราะลูกหลานแยกย้ายไปมีครอบครัวหรือภารกิจของตนเอง บางบ้านลูกหลานอยู่ไกลจนกลับมาเยี่ยมไม่ได้ ผู้สูงวัยจำนวนไม่น้อยจึงอดเปรียบเทียบกับบ้านอื่นๆ ว่าทำไมตนเองไม่มีคนมาหาเหมือนคนอื่น นอกจากนี้ การสูญเสีย ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เมื่ออายุมากขึ้นเพื่อนฝูงหรือคู่ชีวิตหลายคนจากไปทีละคน ความทรงจำช่วงปีใหม่ที่เคยมีคนอยู่พร้อมหน้ากลับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกโดดเดี่ยวให้กับผู้สูงวัย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สูงอายุบางท่านสุขภาพไม่เอื้อให้เดินทางหรือร่วมงานรื่นเริงนอกบ้าน จึงต้องใช้เวลาช่วงวันหยุดอยู่คนเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เทศกาลปลายปีกลายเป็น วันหยุดเหงาๆ ที่ผู้สูงวัยหลายคนอยากให้ผ่านพ้นไปเร็วๆ มากกว่าจะรอคอยด้วยความตื่นเต้น

5 วิธีช่วยคลายเหงาผู้สูงอายุช่วงปลายปี 2568

ลูกหลานสามารถลงมือทำทันทีเพื่อช่วยคลายเหงาให้ผู้สูงอายุในครอบครัวช่วงปลายปี ดังนี้:

1. กลับไปเยี่ยมและใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน 

การใช้เวลาอยู่กับผู้สูงวัย คือของขวัญที่ดีที่สุดในช่วงเทศกาล หากเป็นไปได้ควรกลับไปเยี่ยมท่านที่บ้าน พาท่านไปร่วมงานสังสรรค์หรือทำบุญส่งท้ายปีภายในครอบครัว เมื่ออยู่พร้อมหน้าควรใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และทำกิจกรรมร่วมกันที่ทุกวัยสนุกได้ เช่น จัดงานเลี้ยงเล็กๆ เล่นเกมโต๊ะง่ายๆ หรือเปิดอัลบั้มรูปเก่าเล่าความหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกอบอุ่นใจและไม่โดดเดี่ยว

2. ติดต่อสื่อสารสม่ำเสมอเมื่ออยู่ไกล

ถ้าจำเป็นต้องอยู่ห่างในช่วงปีใหม่ อย่าเงียบหาย ให้ติดต่อท่านเป็นประจำ การโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลทุกวันช่วงเทศกาลช่วยให้ผู้สูงอายุรู้ว่าลูกหลานยังคงนึกถึงท่านอยู่ แนะนำให้กำหนดเวลาโทรหาเป็นประจำ เช่น ทุกเย็นหรือหลังเคาท์ดาวน์ปีใหม่ เพื่อให้ท่านได้รอคอยอย่างมีความหวัง การได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าลูกหลานผ่านวิดีโอช่วยบรรเทาความเหงาได้มากกว่าการส่งข้อความเพียงอย่างเดียว หากผู้สูงวัยไม่ถนัดใช้เทคโนโลยี ลูกหลานอาจต้องสอนวิธีรับสายวิดีโอหรือจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ง่ายให้ท่านล่วงหน้า

3. ชวนทำกิจกรรมหรือหางานอดิเรกผู้สูงวัยที่บ้าน

การมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ทำร่วมกันจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความเหงาได้ ลองชวนผู้สูงอายุทำสิ่งที่ท่านสนใจหรือเคยชอบแต่ไม่ได้ทำมานาน เช่น กิจกรรมผู้สูงอายุในบ้าน อย่างจัดสวนปลูกต้นไม้ ทำอาหารเมนูโปรด หรือประดิษฐ์งานฝีมือง่ายๆ การร่วมกันทำขนมเทศกาลหรืออาหารจานพิเศษก็ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น นอกจากนี้การเล่นเกมฝึกสมองง่ายๆ อย่างเกมจับคู่ภาพ หรือเกมคำศัพท์ก็เป็น เกมสำหรับผู้สูงอายุ ที่ช่วยให้หัวใจเพลิดเพลินและได้ใช้เวลาร่วมกับหลานๆ อย่างสนุกสนาน อีกทั้งการเปิดเพลงเก่าให้ฟังหรือร้องเพลงคาราโอเกะด้วยกัน (เป็นการทำดนตรีบำบัดผู้สูงวัยไปในตัว) ก็ช่วยคลายความเหงาและกระตุ้นความทรงจำที่ดีได้

4. พาออกไปเข้าสังคมหรือกิจกรรมชุมชน

อย่าปล่อยให้ผู้สูงวัยเก็บตัวอยู่คนเดียวตลอดวันหยุดยาว กิจกรรมสันทนาการผู้สูงอายุ นอกบ้านจะช่วยให้ท่านได้พบปะเพื่อนใหม่และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมากขึ้น ช่วงเทศกาลปีใหม่มักมีกิจกรรมในชุมชนหรือวัด เช่น งานทำบุญปีใหม่ งานเลี้ยงผู้สูงอายุ หรือการนัดรวมกลุ่มญาติพี่น้องละแวกบ้าน กิจกรรมกลุ่มผู้สูงอายุ เหล่านี้ทำให้ท่านได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสนุกสนานไปกับผู้อื่น ลดความรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยว นอกจากนี้ ลูกหลานควรให้กำลังใจผู้สูงอายุ ไม่ให้คิดเปรียบเทียบ ตัวเองกับครอบครัวอื่นๆ ที่ดูอบอุ่นกว่า ย้ำเตือนว่าท่านยังมีคุณค่าและเป็นที่รักของลูกหลานเสมอ

5. วางแผนการดูแลเป็นพิเศษเมื่อจำเป็น

หากผู้สูงอายุจำเป็นต้องอยู่ลำพังจริงๆ ในช่วงปลายปี การจัดหาตัวช่วยดูแลเพิ่มเติมก็เป็นทางเลือกที่ดี เพื่อไม่ปล่อยให้ท่านเหงาหรือเสี่ยงซึมเศร้าอยู่คนเดียว เช่น อาจขอให้ญาติหรือเพื่อนบ้านที่สนิทแวะมาชวนท่านคุยทุกวัน หรือใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับหรือรายวันในช่วงที่ลูกหลานไม่อยู่บ้าน ปัจจุบันมี ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุใกล้บ้าน หลายแห่งที่ให้บริการดูแลผู้สูงวัยช่วงกลางวันหรือ ระยะสั้น 2-3 วันตามต้องการ ภายในศูนย์มีผู้ดูแลมืออาชีพคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา มีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุทำตามความสนใจ รวมถึงการดูแลด้านสุขภาพอย่างเหมาะสม (เช่น ช่วยบริหารร่างกาย ป้องกันอุบัติเหตุหกล้ม หรือดูแลเรื่องยา) ทำให้ครอบครัวอุ่นใจได้ว่าท่านจะไม่ถูกปล่อยทิ้งเดียวดายในวันหยุด นอกจากนี้หลังช่วงเทศกาล ลูกหลานควรหาโอกาสพาผู้สูงวัยออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เช่น ไปสวนสาธารณะหรือเที่ยวใกล้ๆ เพื่อฟื้นฟูจิตใจให้สดชื่นหลังผ่านช่วงเหงาๆ มาแล้ว

ความเหงาในช่วงปลายปีคือเรื่องสำคัญ

ความเหงาของผู้สูงวัยช่วงปลายปีเป็นเรื่องที่เราสามารถช่วยบรรเทาได้ทันทีด้วยความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ หรือการส่งเสริมให้ท่านทำกิจกรรมที่มีความหมาย เป้าหมายสำคัญคือไม่ปล่อยให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยวจนเกิดความทุกข์ใจ การดูแลจิตใจผู้สูงวัยควบคู่กับการดูแลร่างกายจะช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เมื่อผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองเป็นที่รักและมีคุณค่าในสายตาครอบครัว เชื่อได้ว่าเทศกาลปีนี้จะกลายเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสำหรับทุกคนในบ้านอย่างแท้จริง

[ติดต่อสอบถาม]