ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะสั้นหรือระยะยาว? แบบไหนเหมาะกับผู้สูงวัยของคุณ
เปรียบเทียบศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะสั้น vs ระยะยาว แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง?
การดูแลผู้สูงอายุสามารถแบ่งออกเป็น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะสั้น และ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ซึ่งแต่ละแบบมีลักษณะการดูแลและกลุ่มผู้ใช้บริการต่างกัน การเลือกให้เหมาะสมจะช่วยให้ผู้สูงวัยได้รับการดูแลที่ตรงความต้องการ และ ช่วยลดภาระของครอบครัว รวมถึงลดความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะได้รับอันตรายหรือทำร้ายตนเอง/ผู้ดูแล จากการดูแลที่ไม่เหมาะสม บทความนี้จะเปรียบเทียบสองรูปแบบนี้ว่ามีข้อดีอย่างไร และผู้สูงอายุแบบใดควรเลือกการดูแลแต่ละประเภท
การดูแลระยะสั้น – เหมาะกับผู้สูงอายุแบบไหน?
การดูแลผู้สูงอายุระยะสั้น (Short-Term Care) คือการรับดูแลผู้สูงวัยเป็นการชั่วคราว ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ไม่กี่วันจนถึงประมาณ 1-3 เดือน การดูแลระยะสั้นมักมีเป้าหมายเฉพาะ เช่น การฟื้นฟูสุขภาพให้ผู้สูงอายุกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เองอีกครั้ง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่เหมาะกับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะสั้น ได้แก่:
- ผู้สูงอายุพักฟื้นหลังผ่าตัด – เช่น หลังผ่าตัดใหญ่หรือการผ่าตัดข้อเข่า ข้อสะโพก จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด ดูแลแผลผ่าตัด และทำกายภาพบำบัดตามแผนแพทย์
- ผู้ป่วยที่ต้องการการฟื้นฟูชั่วคราว – เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่อยู่ระยะฟื้นตัว, ผู้สูงอายุที่หกล้มกระดูกหัก ต้องการกายภาพและการดูแลจนกว่าจะกลับมายืนเดินได้มั่นคง
- กรณี Respite Care (บริการดูแลชั่วคราวเพื่อให้ผู้ดูแลหลักได้พัก) – เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้ดูแลหลักเหนื่อยล้าหรือมีธุระจำเป็น ต้องการฝากผู้สูงวัยไว้ในสถานดูแลมืออาชีพเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟของผู้ดูแลและความเสี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความเหนื่อยล้า
ในการดูแลผู้สูงอายุระยะสั้น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะมีทีมพยาบาลและนักกายภาพบำบัดเฉพาะทางคอยดูแลอย่างเข้มข้น ให้ยาและติดตามอาการทุกวัน ผู้สูงอายุจะได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น การออกกำลังหรือทำกิจกรรมบำบัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่ออาการดีขึ้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านได้ การใช้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะสั้นยังช่วย ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุในช่วงพักฟื้น เช่น การพลัดตกหกล้มในบ้าน เพราะมีอุปกรณ์พยุงเดิน ราวจับ และเจ้าหน้าที่คอยประคองดูแลตลอดเวลา
การดูแลระยะยาว – เหมาะกับผู้สูงอายุแบบไหน?
การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long-Term Care) คือการดูแลแบบพักอาศัยต่อเนื่องระยะยาว ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จนถึงแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา ผู้ใช้บริการจะอาศัยอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเหมือนบ้านหลังที่สอง โดยมีทีมผู้ดูแลมืออาชีพช่วยเหลือกิจวัตรประจำวันและเฝ้าระวังสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง การดูแลระยะยาวเน้นการรักษาคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้สูงวัยในระยะยาวมากกว่าการรักษาให้หายสนิท เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้:
- ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังหรือภาวะพึ่งพิงถาวร – เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) ในระยะกลางถึงระยะปลายที่ความจำและการรู้คิดเสื่อมถอยต่อเนื่อง, ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ที่อาการรุนแรงขึ้นจนเคลื่อนไหวลำบาก, หรือผู้ป่วยอัมพฤกษ์/อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมองที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่ กลุ่มนี้ต้องการการดูแลตลอดไปและการกระตุ้นทำกายภาพหรือกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการเสื่อมถอยของร่างกายและจิตใจ
- ผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย – เช่น ผู้สูงวัยที่นอนติดเตียงจากภาวะข้อเข่าเสื่อมระยะรุนแรง หรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ จำเป็นต้องมีผู้ช่วยดูแลการพลิกตัว ป้องกันแผลกดทับ, ทำความสะอาดร่างกาย, ช่วยเรื่องขับถ่าย และให้อาหารทางสายยาง (ถ้ามี) อย่างถูกวิธีต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลแบบประคับประคอง – เช่น ผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่ต้องการการดูแลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่ มีการควบคุมอาการเจ็บปวด ดูแลด้านจิตใจ และทีมแพทย์พยาบาลเตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉิน
ในการดูแลระยะยาว ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดีจะมีบริการครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ ตลอด 24 ชม. เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือการใช้ชีวิตประจำวันตั้งแต่การอาบน้ำ แต่งตัว จนถึงการทำกายภาพบำบัดและออกกำลังกายเบาๆ เพื่อชะลอการเสื่อมของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสันทนาการหรือเกมฝึกสมองสำหรับผู้สูงวัย เพื่อกระตุ้นสมองและลดภาวะซึมเศร้า สภาพแวดล้อมของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุถูกออกแบบให้ปลอดภัย มีทางเดินที่ติดตั้งราวจับ พื้นกันลื่น ระบบเตือนภัยและกล้องวงจรปิด ผู้สูงวัยจะได้รับการดูแลใกล้ชิด ไม่ต้องอยู่ลำพัง จึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม หรือพฤติกรรมอันตราย (กรณีผู้ป่วยสมองเสื่อมที่อาจเดินหลงกลางคืน หรือมีอารมณ์ก้าวร้าว) ทีมผู้ดูแลได้รับการฝึกอบรมวิธีตอบสนองต่อพฤติกรรมและอารมณ์เหล่านี้อย่างเหมาะสม ทำให้ทั้งตัวผู้ป่วยและผู้ดูแลปลอดภัยยิ่งขึ้น
เช็กลิสต์การตัดสินใจเลือกการดูแลที่เหมาะสม
เมื่อพิจารณาว่าจะเลือกดูแลแบบระยะสั้นหรือระยะยาวสำหรับคนที่คุณรัก ลองเช็กปัจจัยเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจ:
-
สภาพสุขภาพและแนวโน้มการฟื้นตัว
ประเมินว่าอาการของผู้สูงอายุสามารถดีขึ้นได้หรือไม่ หากเป็นการบาดเจ็บหรือป่วยที่มีโอกาสฟื้นหาย เช่น หลังผ่าตัดหรือพักฟื้นจากอุบัติเหตุ การดูแลระยะสั้น ก็เพียงพอและเหมาะสม แต่ถ้าเป็นโรคเรื้อรังหรือภาวะที่ต้องดูแลต่อเนื่องตลอดชีวิต เช่น สมองเสื่อมหรือพาร์กินสัน การดูแลระยะยาว จะตอบโจทย์มากกว่า
-
ความพร้อมของครอบครัวในการดูแล
พิจารณาว่ามีญาติหรือผู้ดูแลหลักที่มีความรู้และเวลาเพียงพอหรือไม่ หากครอบครัวสามารถดูแลเองได้และผู้สูงวัยยังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง อาจใช้บริการระยะสั้นเฉพาะช่วงที่จำเป็นหรือมีบริการผู้ดูแลสนับสนุนเป็นครั้งคราว แต่ถ้าภาระการดูแลหนักเกินไป ไม่มีคนดูแลตลอดวัน หรือผู้สูงวัยต้องการการดูแลที่ซับซ้อนตลอดเวลา การส่งผู้สูงอายุเข้าดูแลระยะยาว กับทีมมืออาชีพอาจจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้สูงวัยและผู้ดูแลเอง
-
พฤติกรรมและความปลอดภัย
สังเกตพฤติกรรมผู้สูงอายุว่ามีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยแค่ไหน ผู้สูงวัยบางคนมีอาการหลงลืมขั้นรุนแรง อาจเดินออกนอกบ้านกลางดึก, ลืมปิดแก๊ส, หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวที่อาจทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ หากดูแลที่บ้านแล้วควบคุมสถานการณ์เหล่านี้ได้ยาก ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีระบบความปลอดภัยและผู้เชี่ยวชาญพร้อมจะสามารถจัดการสถานการณ์ได้ดีกว่า
-
ระยะเวลาที่ต้องการการดูแล
หากผู้สูงอายุต้องการดูแลเพียงชั่วคราวเป็นบางช่วง (เช่น 1-2 เดือน) การดูแลผู้สูงอายุระยะสั้นย่อมเหมาะกว่า แต่หากท่านต้องการการดูแลต่อเนื่องยาวนานหลายเดือนหลายปี ก็ควรวางแผนดูแลระยะยาวเพื่อให้ได้รับการดูแลต่อเนื่องไม่สะดุด
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบใด การสื่อสารภายในครอบครัวอย่างเปิดใจเป็นสิ่งสำคัญ พูดคุยกับผู้สูงอายุและสมาชิกครอบครัวทุกฝ่ายถึงความต้องการและข้อกังวล เพื่อให้ตัดสินใจร่วมกันได้อย่างมั่นใจ หากยังลังเล สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือลองใช้บริการดูแลระยะสั้นดูก่อนเพื่อประเมินความเหมาะสม
MyLuck Nursing Home มีบริการทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ (ระยะสั้น) และแบบอยู่ประจำระยะยาว โดยทีมสหวิชาชีพผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน ครอบครัวสามารถวางใจได้ว่าผู้สูงวัยจะได้รับการดูแลที่ดีและปลอดภัย ไม่ว่าจะเลือกการดูแลรูปแบบไหนก็ตาม
บทความที่คุณอาจสนใจ
โรคหัวใจในผู้ป่วยสูงอายุ
ผู้สูงอายุ กับปัญหาท้องผูก พร้อมคำเเนะนำจากแพทย์
ผู้สูงอายุเบื่ออาหาร ทำไงดี ที่นี่มีคำตอบ
ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ “ท้องผูก” อาการที่ไม่ควรมองข้าม