นักกิจกรรม vs นักกายภาพบำบัด ต่างกันอย่างไร? เข้าใจใน 5 นาที
เปรียบเทียบชัดๆ ความแตกต่างทั้ง 2 กับการดูแลผู้สูงอายุ
หลายคนอาจสงสัยว่านักกิจกรรมบำบัดกับนักกายภาพบำบัดนั้นแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะในการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งสองบทบาทล้วนมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย แต่มีวิธีการและจุดเน้นที่ต่างกัน บทความนี้จะอธิบายความหมาย บทบาทหน้าที่ของแต่ละวิชาชีพ พร้อมเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ ภายใน 5 นาที
นักกิจกรรมบำบัดคือใคร? (Occupational Therapist - OT)
นักกิจกรรมบำบัด คือผู้เชี่ยวชาญที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน (Activities of Daily Living หรือ ADL) ได้ด้วยตัวเองมากที่สุด พวกเขาจะฝึกและกระตุ้นทักษะการใช้ชีวิตประจำวันทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เช่น การอาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหาร หรือการทำงานอดิเรกง่าย ๆ นักกิจกรรมบำบัดมักใช้กิจกรรมผู้สูงอายุที่หลากหลาย ตั้งแต่การฝึกหยิบจับสิ่งของเล็ก ๆ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมือ (Fine Motor Skills) ไปจนถึงกิจกรรมสันทนาการผู้สูงอายุอย่างการวาดรูป ร้องเพลง หรือเกมฝึกสมองสำหรับผู้สูงวัย เพื่อกระตุ้นความจำและอารมณ์ที่ดี นอกจากนี้ นักกิจกรรมบำบัดยังช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย เช่น แนะนำการติดตั้งราวจับในห้องน้ำผู้สูงอายุ การจัดบ้านให้โปร่งโล่งหรือเพิ่มแสงสว่าง (เช่น ติดไฟทางเดินสำหรับผู้สูงวัย) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงแนะนำการใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย เช่น รองเท้ากันลื่นผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการลื่นล้มของผู้สูงวัย การปรับตัวและอุปกรณ์ช่วยเหลือเหล่านี้ทำให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจมากขึ้น
นักกายภาพบำบัดคือใคร? (Physical Therapist - PT)
นักกายภาพบำบัด คือผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ เน้นไปที่การเคลื่อนไหวของร่างกายและการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ นักกายภาพจะช่วยผู้สูงวัยที่มีปัญหาเรื่องการเดิน การทรงตัว หรืออาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและลดความเจ็บปวด ตัวอย่างเช่น การฝึกเดินสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดสะโพก การบริหารข้อเข่าในผู้ที่ข้อเข่าเสื่อม หรือการออกกำลังแขนขาให้ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง วิธีการรักษาของนักกายภาพบำบัดมีหลากหลาย ตั้งแต่การออกกำลังกายเฉพาะส่วน การนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ การใช้อุปกรณ์กายภาพบำบัด (เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า, อัลตราซาวนด์) ไปจนถึงการฝึกการทรงตัวเพื่อป้องกันผู้สูงอายุหกล้ม นอกจากฟื้นฟูร่างกายแล้ว นักกายภาพบำบัดยังให้คำแนะนำผู้ดูแลในการเคลื่อนย้ายหรือพยุงตัวผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงการบาดเจ็บทั้งกับผู้สูงวัยเองและผู้ดูแล
ความแตกต่างระหว่างนักกิจกรรมบำบัดกับนักกายภาพบำบัด
ทั้งนักกิจกรรมบำบัดและนักกายภาพบำบัดต่างมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมักทำงานร่วมกันเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพเพื่อดูแลผู้สูงวัยแบบองค์รวม หากครอบครัวของคุณมีผู้สูงอายุที่ต้องการการฟื้นฟูหรือการดูแลเป็นพิเศษ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งสองประเภทนี้จะช่วยประเมินและจัดโปรแกรมการดูแลที่เหมาะสมได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
ลูกหลานควรรู้! วิธีป้องกันผู้สูงอายุเป็นผู้ป่วยติดเตียง
6 สัญญาณเตือนรอบเตียง ผู้สูงอายุติดเตียงเริ่มเสี่ยงทรุดซ้ำ
กรดไหลย้อนในผู้สูงอายุ โรคกวนใจที่ไม่ควรมองข้าม
ภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ วิธีปรับอาหารและการดูแลเพื่อลดความเสี่ยงสำลัก